การจะตกแต่งสวนให้ออกมาดูสวยงาม สมดุล กลมกลืน และพอเหมาะพอดีขึ้นมาได้ จำเป็นต้องใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ เป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบสวน การเลือกพื้นที่ รวมไปถึงการเลือกสรรวัสดุตกแต่งที่เหมาะสม ทุกขั้นตอนล้วนต้องให้ความสำคัญทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้ในบางศาสนาอย่างศาสนาพุทธนิกายเซนจึงมองว่า การจัดตกแต่งสวนสามารถช่วยเจริญสติปัญญา และสามารถช่วยฝึกสมาธิได้ด้วย เพราะฉะนั้นการจะตกแต่งสวนให้ออกมาน่ามอง จึงต้องอาศัยความทุ่มเทเป็นอย่างมาก สำหรับท่านใดที่เริ่มสนใจการจัดสวน แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี บทความนี้จะขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับความรู้ขั้นพื้นฐานที่มือใหม่ควรรู้ ว่าการตกแต่งสวนนั้นมีทั้งหมดกี่แบบ และควรเลือกหินจัดสวนแบบไหนให้เหมาะกับสไตล์ที่เราอยากทำ รับรองว่าอ่านจบแล้ว จะต้องไอเดียกระฉูดแน่นอน
การตกแต่งสวนมีกี่ประเภท และควรเลือกหินจัดสวนแบบไหนให้เหมาะกับสวนที่อยากจัดดี
หากเราจะพูดถึงสไตล์การจัดสวน คงเป็นเรื่องยากมากที่จะหาขีดจำกัดเจอ เพราะสไตล์การจัดนั้นมีหลากหลาย แต่ถ้าพูดถึงรูปแบบการจัดสวน ส่วนใหญ่จะถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
1. สวนแบบประดิษฐ์ (Formal Styles)
การตกแต่งสวนประเภทแรกที่จะขอแนะนำให้รู้จักกันในวันนี้ คือการตกแต่งสวนแบบประดิษฐ์ หรือเราอาจจะเรียกว่าเป็นการจัดตกแต่งสวนแบบมารตฐานที่เน้นจัดสวนให้เป็นรูปทรงเรขาคณิตอย่างสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม และวงกลม โดยต้องจัดสวนทุกด้านให้มีความสมดุลกัน และมีแกนกลางหลักเพื่อเสริมความสมมาตร เช่น การติดตั้งน้ำพุ, บ่อน้ำ, การสร้างศาลาพักผ่อน, หรือถ้าสร้างในพื้นที่ใหญ่ๆ อาจจะสร้างถนนให้คนเดินล้อมรอบแกนกลางเอาไว้ เสมือนเป็นวงเวียนด้วยก็ได้เช่นกัน สำหรับพืชพรรณที่ใช้ตกแต่งสวนประเภทนี้ จะเน้นไปที่ดอกไม้สีสันฉูดฉาด เพราะจะช่วยขับเน้นให้หญ้าสีเขียวดูสว่างสดใสขึ้น นอกจากนี้อาจมีการประดับตกแต่งด้วยงานประติมากรรม เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับพื้นที่ในสวน ในส่วนของหินจัดสวนสามารถเลือกได้อย่างหลากหลาย โดยอาจจะเลือกหินปูพื้นเป็นพื้นทรายล้าง, แผ่นปูนเปลือย, หินคอบเบิ้ล หรือหินแกรนิตเน็ตสำหรับทำเป็นทางเดิน เพื่อเสริมความเป็นรูปทรงเรขาคณิตให้กับสวนแบบนี้ดูดียิ่งขึ้น หรือถ้าใครไม่อยากให้พื้นเป็นสีขาวหรือเทา ก็อาจจะทำเป็นทางเดินอิฐแทนได้ ขึ้นอยู่กับสไตล์ที่ชอบ
2. สวนแบบธรรมชาติ (Informal Styles)
ถ้าเปรียบการตกแต่งสวนแบบธรรมชาติเข้ากับการแต่งหน้า ก็คงจะเป็นการแต่งหน้าสไตล์ Makeup No Makeup หรือการแต่งแบบไม่แต่ง เนื่องจากการจัดสวนแบบนี้จะเน้นไปที่การจัดสวนให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด แตกต่างจากแบบแรกที่เน้นความสมดุล และรูปทรงเรขาคณิตที่ทำให้มองออกว่าเป็นสวนประดิษฐ์อย่างชัดเจน ซึ่งการจะจัดสวนให้ใกล้เคียงกับป่าที่เราสามารถพบเจอได้ตามธรรมชาติจริงๆ ต้องปล่อยให้พืชพรรณในสวนนี้เติบโตเองตามธรรมชาติ แต่อาจตัดแต่งต้นไม้ได้บ้างเพื่อไม่ให้รกเกินไป และควรเลือกพืชที่มีความเขียวชอุ่ม เป็นสีโทนเดียวกันไม่ฉูดฉาดโดดเด่น จะได้ดูเหมือนป่าธรรมชาติจริงๆ ในส่วนของพื้นสวนประเภทนี้ จะตกแต่งให้มีความลดหลั่นลงไปเป็นชั้นๆ เพื่อให้ดูคล้ายกับพื้นที่ตามธรรมชาติที่สุด ซึ่งการจะทำให้พื้นที่ดูสูงต่ำลดหลั่นกันลงมาสามารถเลือกใช้ขอบกั้นดินจัดสวนในการจัดได้ ซึ่งในปัจจุบันมีขอบกั้นดินให้เลือกหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ขอบกั้นดินจากหินและอิฐ รวมไปถึงขอบกั้นดินพลาสติกด้วย นอกจากนี้หากอยากทำให้สวนดูสมจริงมากขึ้น อาจลองหาซื้อหินจากร้านขายหินธรรมชาติเพิ่มเติมด้วย ก็จะช่วยได้มากทีเดียว
3. สวนจากจินตนาการ (Imaginative Styles)
คำนิยามของสวนประเภทนี้ถือว่าค่อนข้างกว้างมาก เพราะเป็นสวนที่สร้างขึ้นมาตามจินตนาการ หมายความว่า ไม่ว่าคุณจะจินตนาการอะไรก็สามารถนำมาจัดเป็นสวนได้หมด ไม่มีรูปแบบตายตัว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับธีมที่คุณเลือกทั้งหมด ซึ่งบางครั้งเราก็อาจจะเห็นคนจัดสวนรูปแบบนี้ โดยอิงตามแนวกรีก-โรมัน อย่างการทำกำแพงเมือง, การทำเป็นห้อง, และการทำเป็นซุ้มประตู เป็นต้น ถ้าหากเลือกทำสไตล์นี้ ก็สามารถใช้บล็อกช่องลม หรืออิฐบล็อกช่องลมมาตกแต่งผนังต่างๆ ให้ดูโปร่ง สว่าง และมีลูกเล่นเพิ่มขึ้นได้ นอกจากธีมเหล่านี้ หากใครสนใจทำธีมอื่นๆ ก็ไม่ผิดแต่อย่างใด เพราะของประดับแต่งสวนนั้นมีหลากหลายมาก หากใครอยากจัดสวนเน้นอิฐ และดินเผา ก็สามารถใช้กระเบื้องดินเผาติดผนัง, อิฐแปะผนัง และกระเบื้องปูพื้นดินเผามาตกแต่งได้ อย่างไรก็ตามหากใครอยากจัดสวนแบบถาวร สวนประเภทนี้อาจไม่ค่อยได้รับความนิยมนัก เพราะส่วนใหญ่จะจัดขึ้นในงานพิเศษมากกว่านั่นเอง
4. สวนแบบนามธรรม (Abstract Style)
มาถึงการตกแต่งสวนรูปแบบสุดท้ายกันแล้ว ซึ่งเพิ่งได้รับความนิยมไม่นานมานี้ สำหรับการจัดสวนประเภทนี้ ถือว่าเหมาะสมกับคำว่าศิลปะเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสวนที่ตกแต่งได้อย่างอิสระ ไม่ยึดติดกับกฎหรือรูปแบบใดๆ ไร้ความจำเจ เหมือนกับการทำงานศิลปะแบบนามธรรม ที่ศิลปินจะทำอย่างไรกับงานศิลปะของตัวเองก็ได้ จะวาดอย่างไร หรือใช้สีแบบไหน หรือทำทรวดทรงอย่างไร ก็สามารถทำได้อย่างไร้ข้อจำกัด เพราะสิ่งสำคัญสำหรับงานศิลปะแบบนามธรรมไม่ใช่รูปวาดที่สวยงาม แต่เป็นจิตวิญญาณที่อยู่ข้างใน ด้วยเหตุนี้การจัดสวนประเภทนี้ก็เหมือนกัน เพียงเปลี่ยนจากการวาดลวดลายบนผืนผ้าใบ มาเป็นการจัดตกแต่งบนพื้นดิน และตามผนังต่างๆ แทนเท่านั้นเอง โดยมีการใช้หินกรวดจัดสวนเทลงไปให้ทั่วพื้นแทนการสาดสี หรือบางคนอาจจะใช้หินลูกเต๋า และหินตกแต่งผนังมาทำให้สวนนามธรรมของตัวเองดูสมบูรณ์ก็ได้เช่นกัน แน่นอนว่าการออกแบบสวนแบบนามธรรมสามารถใช้หินจัดสวนประเภทอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะอยากให้ออกมาเป็นแบบใด
เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ เชื่อว่าหลังจากอ่านจบ หลายคนต้องแยกออกแล้วแน่นอนว่าสวนแต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร ควรจัดแบบไหน และควรเลือกหินจัดสวนแบบใดให้เข้ากับธีมดี ซึ่งถ้าใครตัดสินใจได้แล้วว่าอยากลองจัดสวนรูปแบบไหน แล้วกำลังมองหาอุปกรณ์จัดสวนอย่างหินจัดสวน, หินติดผนัง, หินนำเข้า, คอบเบิ้ล เน็ต, คอบ เน็ต, หินตกแต่งสวนนำเข้า, หินดำเงาบาหลี และหินขาว หินดำด้าน สามารถลองมาเลือกดูสินค้าต่างๆ ที่ร้าน RCM ได้เลย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 084-519-5555 (คุณมล), 062-595-9447 (Sale.คุณจอย), 065-095-3544 (Sale.คุณน้อง), 064-245-4222 (Sale.คุณปู)
อีเมล : rcm88thailand@gmail.com
Line ID : @rcm88th